ไฟตาซ่าดีกว่า ครีม ทา ผิว ยังไง

ไฟตาซ่าดีกว่า ครีม ทา ผิว ยังไง
ทำไมไฟตาซ่าถึงเห็นผลเร็ว
ไฟตาซ่าผสมผสานสมุนไพรมากกว่า 14 ชนิด เพื่อประสิทธิ์ภาพสูงสุด
คัดสรรสมุนไพรธรรมชาติ

ไฟตาซ่าผลิตจากสารสกัดสรรสมุนไพรธรรมชาติ คุณภาพสูง คัดสรรมาเป็นอย่างดีเพื่อประสิทธิ์ภาพที่สูงที่สุด
สกัดจากวัตถุดิบคุณภาพสูง

ไฟตาซ่าได้คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงจากส่วนต่างๆของโลก สกัดเฉพาะสารสำคัญ เพื่อได้ให้อาหารเสริมที่มีประสิทธิ์ภาพสูง
วิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์

ไฟตาซ่า ได้รับการคิดค้นและพัฒนาโดยนักวิจัยมืออาชีพ ผ่านการทดลองหลายครั้ง จึงทำให้ได้รับผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
ผสานสมุนไพรหลากชนิด

เพื่อให้ได้การออกฤทธิ์ครอบคลุม ไฟตาซ่าได้ ผสมผสานสมุนไพรหลายชนิด ทำให้ประสิทธิ์ภาพหลากหลาย
สมุนไพรของไฟตาซ่า
ไฟตาซ่าผสมผสานสมุนไพรมากกว่า 14 ชนิด เพื่อประสิทธิ์ภาพสูงสุด
















แนะนำไฟตาซ่า โดยน้องภา



ประโยชน์ของไฟตาซ่า
สิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อรับประทานไฟตาซ่าเป็นประจำ



สั่งซื้อไฟตาซ่า

* การรับประกันสินค้า ลูกค้าสามารถเปลี่ยนคืนสินค้าได้ภายใน 7 วันหากพบว่าไม่สมบูรณ์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
FAQ : คำถามเกี่ยวกับ ไฟตาซ่า
ไฟตาซ่าช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
ผู้มีปัญหาสิวเรื้อรัง เกิดจากการที่สมดุลย์ของฮอร์โมนผิดปกติ สังเกตได้ง่ายๆ จากการที่อายุมากแล้ว แต่ก็ยังเป็นสิวเหมือนวัยรุ่นอยู่ ไฟตาซ่า จะเข้าไปช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนต่างๆในร่างกายให้เป็นปกติ
ผู้ที่ผิวแพ้ง่าย มีปัญหาภูมิแพ้ ผื่นคัน ไฟตาซ่า จะเข้าไปช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรง กระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ทำให้ผิวแข็งแรงและทนทานต่อสารที่ทำให้แพ้ต่างๆ ได้ดีขึ้น
ผู้ที่ต้องการจะฟื้นฟูสภาพผิวพรรณที่อ่อนล้า ต้องการขับสารพิษจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากสารเคมีต่างๆ ไฟตาซ่า ช่วยให้ผิวแข็งแรง เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวสดใสเปล่งปลั่ง
พิเศษช่วยบำรุงสมอง เสริมพัฒนาการ สร้างสมาธิ เพิ่มความจำ คลายความเครียด ลดสมองล้า ลดภาวะสมาธิสั้น พัฒนาการเรียนรู้ให้ดีขึ้น
ผิวพรรณขาว กระจ่างใส ไร้สิว ฟ้า กระ จุดด่างดำ บำรุงสมอง พร้อมปรับสมดุลร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติ สวยตั้งแต่ภายในถึงภายนอก
ผลิตภัณฑ์ ไฟตาซ่า ได้มาตรฐานไหม ?
ไฟตาซ่าผ่านการรับรองมาตรฐาน GMP, HACCP, Halah, อย. ไทย/อเมริกา
มาตรฐาน GMP
GMP ย่อมาจาก Good Manufacturing Practice คือการปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร เป็นระบบประกันคุณภาพที่มีการปฏิบัติในการผลิตอาหาร เพื่อให้ เกิดความปลอดภัย และมั่นใจต่อการบริโภค หลักการของ GMP จึงครอบคลุมตั้งแต่สถานที่ตั้งของสถานประกอบการ โครงสร้างอาคาร ระบบการผลิตที่ดี มีความปลอดภัย และมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ทุกขั้นตอน นับตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนการผลิต ระบบควบคุมตั้งแต่วัตถุดิบระหว่างการผลิต ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป การจัดเก็บ การควบคุมคุณภาพ และการขนส่งจนถึงผู้บริโภค
มีระบบบันทึกข้อมูล ตรวจสอบและติดตามผลคุณภาพผลิตภัณฑ์ รวมถึงระบบการจัดการที่ดีในเรื่องสุขอนามัย
มาตรฐาน HACCP
HACCP ย่อมาจาก Hazard Analysis Critical Control Point คือ มาตรฐานควบคุมดูแลความปลอดภัยในทุกกระบวนการผลิตอาหาร เพื่อป้องกันอันตรายและสิ่งปนเปื้อนในอาหาร ที่ผู้บริโภคอาจได้รับจากการบริโภคอาหาร ผ่านกระบวนการวางแผนป้องกันล่วงหน้า รวมทั้งการควบคุมและเฝ้าระวัง เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่ามาตรฐานที่กำหนดขึ้นนั้นมีประสิทธิภาพตลอดเวลา ทั้งนี้ HACCP เป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับความนิยมและยอมรับจากนานาชาติทั่วโลก
ประกอบด้วยหลักการ 7 ประการ ดังต่อไปนี้
1. การวิเคราะห์อันตราย จากผลิตภัณฑ์ที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้บริโภคได้ ในทุกขั้นตอนการผลิต และการกำหนดวิธีป้องกันเพื่อแก้ปัญหา
2. การกำหนดจุดควบคุมวิกฤตในกระบวนการผลิต ให้มีค่าที่กำหนดไว้เพื่อความปลอดภัยหรือลดการเกิดอันตรายจากผลิตภัณฑ์
3. การกำหนดค่าวิกฤต อาจเป็นค่าตัวเลข หรือลักษณะคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นเกณฑ์ในการควบคุมอันตราย
4. การตรวจสอบหรือเฝ้าสังเกตการณ์ เพื่อควบคุมจุดวิกฤตอย่างเป็นระบบ
5. กำหนดมาตรการสำหรับแก้ไขข้อบกพร่อง
6. การทบทวนประสิทธิภาพของระบบ HACCP ที่ใช้งานอยู่
7. การจัดทำบันทึก และเก็บรักษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการผลิต
อย.ทั้งไทย และ สหรัฐอเมริกา
สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา
“ อย. ” ไม่ได้แปลว่า อะไร แต่ อย. คือ สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration) กระทรวงสาธารณะสุข ผู้คอยปกปักษ์คุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับ 6 ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน และวัตถุเสพติดที่ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน รวมไปถึงส่งเสริมข้อมูลที่ถูกต้องถูกหลักวิชาการมีประโยชน์ต่อผู้บริโภค เพื่อให้เรา ๆ มีพฤติกรรมการบริโภคที่เหมาะสมสุขภาพดีปลอดภัยแบบเฮลตี้
หน้าที่ของ “ อย.” ผู้พิทักษ์ของผู้บริโภค
อย. มีหน้าที่กำกับและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานอยู่เสมอ และมีหน้าที่ตามกฎหมายดังนี้
1. ดำเนินการตามกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพที่อยู่ในความรับผิดชอบ
2. กำกับดูแล และตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ก่อนออกสู่ตลาด รวมถึงคำโฆษณาผลิตภัณฑ์นั้น ๆ
3. ส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ผู้ประกอบการ
4. ตรวจสอบผลิตภัณฑ์หลังออกสู่ตลาดและการโฆษณาผลิตภัณฑ์
5. เฝ้าระวังปัญหาหรืออันตรายที่จะเกิดขึ้น
6. ส่งเสริมผู้บริโภคให้มีความรู้และศักยภาพในการเลือกผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างปลอดภัย คุ้มค่า
7. ส่งเสริมการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพโดยการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และเครือข่าย
มาตรฐานอาหาร Halal
เครื่องหมายรับรองฮาลาลเป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรศาสนาอิสลามเท่านั้นคือคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดอาหารฮาลาลจึงเป็นเรื่องของความร่วมมือและผลประโยชน์ร่วมกันของ3ฝ่ายคือมุสลิมผู้บริโภค ผู้ประกอบการและประเทศชาติกล่าวคือ
1. มุสลิมได้บริโภคอาหารฮาลาลที่เชื่อได้ว่าถูกต้องตามบัญญัติศาสนาอิสลามมีคุณค่าอาหาร ถูกสุขอนามัย ปลอดภัยจากสิ่งต้องห้ามทางศาสนาอิสลาม (ฮารอม)และสิ่งปนเปื้อนต่างๆ
2. ผู้ประกอบการได้รับผลประโยชน์ทางธุรกิจโดยตระหนักถึงการผลิตอาหารฮาลาลที่ถูกต้องตามบัญญัติศาสนาอิสลามและปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยว่าด้วยการรับรองฮาลาลอย่างเคร่งครัดตลอดจนบริหารคุณภาพอาหารตามมาตรฐานฮาลาล
จะทราบได้อย่างไรว่าครีมที่ใช้อยู่ อันตราย ?
วิธีสังเกตครีมที่มีสารอันตราย
ช่วงนี้ มีเรื่องน่ากลัว ให้สาวๆที่รักความสวย ความงาม ต้องสยดสยองกันได้เรื่อยๆเลยนะคะ อย่าว่าแต่กับสาวๆเลย ครีมทาหน้าผู้ชาย ก็มีสารอันตรายเช่นกัน กับการใช้ ครีม บำรุง หน้า ที่ซื้อครีมมาในราคาถูกแสนถูกอย่างครีมกิโลที่ดังอยู่พักหนึ่ง … ซึ่งสาวๆ ที่ซื้อไป ก็ขาวนะคะ ขาวจริง แต่ขาวได้พักเดียวเท่านั้นแหละค่ะ
จากนั้น การรีวิวหน้าพังจากการใช้ ครีม ทา หน้า ราคาถูก ก็เริ่มขึ้นจนเราสามารถเห็นได้ในข่าวทั่วไป เราไม่อยากให้สาวๆ ไปซื้อครีม ที่ดูอันตราย มาใช้เลย เพราะผลลัพธ์ ที่ได้จากการอยากขาวและเชื่อโฆษณามากเกิน ทำเอาหลายคนพลาดมาแล้วเยอะแยะ และเพื่อเป็นการเตือนภัยให้กับสาวๆ หรือเพื่อให้มั่นใจ ครีมทาหน้าเซเว่น ใกล้ๆบ้านก็มีจำหน่ายนะ
มาดูวิธีสังเกตครีมเถื่อนที่ใช้แล้วพังดีกว่าค่ะ ก่อนใช้ครีมที่ซื้อใหม่ทุกครั้ง จะได้ไม่เป็นอันตรายนะคะ
“ครีมเถื่อน” คืออะไร??
ตรงตัวค่ะ ครีมเถื่อน คือ ครีมที่ทำออกมาแบบไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งก็ได้แก่ ครีมที่ …
- ไม่มี อย.
- มีสารประกอบครีม เป็นสารที่ อย. สั่งห้าม อย่าง สารปรอท
- ใส่สารเกินที่ อย. กำหนด อย่าง สารไฮโดรควิโนน
- ใส่สาร สเตียรอยด์
- สรรพคุณของครีมแรงเว่อร์ (เพราะใส่สารเกิน เนี่ยแหละค่ะ )
แบ่งขายเป็นกิโลกรัมได้ แต่ราคาถูก - ไม่มียี่ห้อ
ไม่มีฉลาก ที่ระบุสถานที่ผลิต ผู้ประกอบการ ส่วนผสม วันเดือนปีหมดอายุ ครีมเถื่อน
โดยผลลัพธิ์ ที่ได้จากการใช้ครีมเถื่อน ไม่ค่อยได้ตรงตามที่แม่ค้าครีมโฆษณานะคะ อาจจะขาวใส อยู่ 1 อาทิตย์ แล้วหน้าพังเลย แต่ไม่ใช่ทุกยี่ห้อจะเป็น ดังนั้น ก่อนซื้อครีมทุกครั้ง ให้ตรวจก่อนซื้อ ว่ามี อย. ไหม มีฉลากรึเปล่า ตรวจก่อนทุกครั้งนะคะ แต่ก็นั้นแหละค่ะ
สารอันตรายที่มีอยู่ในครีม มีอะไรบ้าง ?
3 สารอันตรายที่จะทำให้หน้าและระบบภายในของคุณพัง
1.สารปรอท ระวังคำนี้ไว้เลยค่ะ คำว่า ขาวไว ! เพราะในครีมที่โฆษณาแบบนี้ จะต้องมีส่วนผสมของสารปรอท แน่นอน
แล้วทำไมต้องระวังสารปรอทนะเหรอคะ? มารู้จักสารปรอทกันเถอะเนอะ
“ปรอท เป็นสารต้องห้าม” อย. ได้ระบุไว้ชัดเจนค่ะ ว่าห้ามใส่สารปรอทลงในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เพราะปรอทเป็น สารโลหะหนักที่มีพิษ แม้จะได้รับเพียงเล็กน้อย แต่!.สารปรอท ก็จะสะสมอยู่ในร่างกายค่ะ โดยสารปรอทเนี่ย จะเร่งการผลัดผิวให้ไวขึ้น จึงทำให้ดูว่า โหยยย… แค่ 1 อาทิตย์ก็ขาวไวแล้วแต่ผลจากการขาวไว อันตรายกว่าที่คิดค่ะ
ผลข้างเคียงของ สารปรอท เพราะสารปรอท จะไปเร่งการผลัดเซลล์ผิวให้ไวขึ้น แถมยังเป็นโลหะหนักมีพิษ ที่ถึงแม้จะได้รับแค่เพียงเล็กน้อย ก็จะสะสมอยู่ในร่างกาย แต่เมื่อได้รับสารปรอทเข้าไป สิ่งที่จะเกิดตามมา มันร้ายแรง อย่างเช่น
ผิวหนังไวต่อแสง ถึงจะขาวไว แต่ก็จะทำให้ผิวบางมากค่ะ คราวนี้ จะทำให้รู้สึกแสบร้อน บริเวณผิวหนัง
เกิดผื่นแดง
เกิดฝ้า
ผิวหน้าดำ คล้ำไหม้ ถ้าเกิดว่าแพ้ขึ้นมา
และไม่ใช่แค่ผิวหนังที่จะได้รับผลข้างเคียงนะคะ ระบบหายใจ และระบบสมองก็ได้รับผลข้างเคียงนี้ด้วย อย่างเช่น
1.ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
2.ตับเป็นพิษ
3.ไตเสีย
4.ระบบประสาทเสื่อม
5.ส่งผลต่อเด็กในครรภ์ อาจจะทำให้เด็กพิการได้
2.สเตียรอยด์ คืออะไร??? สารสเตียรอยด์ เป็นสารสังเคราะจาก ฮอร์โมน Cortisol โดยใช้ในทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และมีฤทธิ์เฉพาะเจาะจงกับบางโรคโดยเฉพาะค่ะ โดย “สาร สเตียรอยด์ ถูกกฎหมายกำหนดให้เป็นยาควบคุมพิเศษ” แต่ในด้านความสวยและความงาม สเตียรอยด์ จะถูกนำเอามาใช้เรื่องของการรักษาสิว
ซึ่งครีมที่ขายตามตลาดนัด หรือครีมในเน็ทที่ราคาถูก ขาว ใส ไร้สิว ใน 7 วัน ส่วนมาก มีกันทั้งนั้นค่ะ
ผลข้างเคียงของ สเตียรอยด์ ถ้าสาวๆคิดว่า ขนาดคุณหมอ ยังให้สารสเตียรอยด์ ในการรักษาสิวเลย แล้วมันจะมีอันตรายอะไร?…. ถูกค่ะ คุณหมอจะใช้สเตียรอยด์ ในการรักษาสิวจริง แต่!..คุณหมอก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางผิวหนังใช่ไหมคะ?.. คุณหมอก็จะรู้ว่า คุณหมอจะต้องจ่ายยาเท่าไหร่ ให้คนไข้ ได้รับในปริมาณที่พอดี แต่เราไปซื้อครีมมาใช้กันเอง เรารู้หรอค่ะ ว่าเราได้รับ สเตียรอยด์ไปแล้วเท่าไหร่?…แล้วถ้าเราได้รับสาร สเตียรอยด์มากไป นี้เป็นผลที่เราจะได้รับ หลังจากหน้าใสไร้สิวแล้วค่ะ
1.หน้าบวมกลม จากสารเคมี
2.หลังเป็นโหนก
3.กระเพราะอาหารเป็นแผล
4.เกิดภาวะติดเชื้อง่ายๆ
และไม่ใช่แค่อาการที่เป็นผลเสียแก่ร่างกายนะคะ มาดูผลกระทบ ที่เกิดกับผิวหน้าเรากันค่ะ อาการหน้าบาง หลังจากครีมที่มีสารผสมของสเตียรอยด์ไปสัก 2 – 4 สัปดาห์ สิ่งแรกที่จะเกิดกับสาวๆ คือ อาการหน้าบาง เป็นอาการที่ผิวหน้าของเรา เกิดการสูญเสียกระบวนการผลิตคอลลาเจนไป ทำให้ผิวหน้า บางตัวลง แล้วสิ่งที่จะบอกเราได้ว่า ผิวหน้าของเราสูญเสียกระบวนการผลิตคอลลาเจนแล้ว คือ…
จะเกิดรอยแตกบนผิวหน้าขึ้นค่ะ น่ากลัว ฮรึก ก..Cry
หน้าแดง หลังจาก ผิวหน้า ที่เป็นปราการด่านแรก ได้ถูกทำลายแล้ว
เส้นเลือด ที่อยู่ตามผิวหน้า ก็จะถูกทำร้ายเป็นอย่างต่อมาค่ะ นั้นทำให้เส้นเลือดเกิดความผิดปกติ
ทำให้หน้าดูแดงก่ำอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ไม่ใช่แดงเลือดฝาดนะคะ
สีผิวหนังซีด เกิดเป็น ด่างขาว
เกิดรอยหลุมสิว
สิวผดถามหารัวๆเลยค่ะ
แล้วพอผิวหน้าเสีย เกิดสิว เราก็จะไปซื้อยาสเตียรอยด์มาใช้อีก จนเกิดเป็นอาการติดสเตียรอยด์ คราวนี้แหละค่ะ ทั้ง สิวผด บนหน้าแดงจากการอักเสบของผิว ก็จะตามมา แล้วหลังจากที่สวยได้ 2 – 4 สัปดาห์ หน้าก็จะพังจนต้องร้องไห้หนักมาก แถมค่ารักษาอาการติดสเตียรอยด์ แพงกว่าครีมเป็น 100 เท่าเลยค่ะ น่ากลัวสุดๆไปเลยค่ะ
3.ไฮโดรควิโนน ฝ้า กระหายไว หน้าขาวใส ใน 5 – 7 วัน ! ปัง!.. คุณโดนสาร ไฮโดรควินินเข้าให้แล้วค่ะ … ครีมที่เราจะเจอสาร ไฮโดรควินิน บ๊อย…บ่อย เลย ก็คือ ครีมที่มีสรรพคุณอ้างว่า จะช่วยให้หน้าขาวได้อย่างรวดเร็ว เพราะอะไรหรอคะ?..ก็เพราะ สารไฮโดรควินโนน เป็นสารเคมี ที่ออกฤทธิ์ โดยการยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีของผิวหนัง ที่เราคงจะเคยได้ยินอีกชื่อ คือ เมลานิน เมื่อกระบวนการ การสร้างเม็ดสีถูกยับยั้ง ก้จะทำให้ผิวขาวขึ้น อย่างรวดเร็ว โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะใช้ในเรื่องของการรักษาฝ้าค่ะ
ผลข้างเคียงของ ไฮโดรควิโนน สาร ไฮโดรควินิน มีประโยชน์จริงค่ะ ในคลินิก ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถสั่งจ่ายยา ที่ส่วนประกอบของสารชนิดนี้ได้ แต่!..“กฎหมายสั่งห้าม ไม่ให้ใส่สารไฮโดรควินิน ลงในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทั่วไป” เพราะครีมที่ขายทั่วไป จะใส่สารนี้เกินกว่าที่ อย. กำหนดไว้ถึง 3 – 5 % จึงทำให้ผิวขาว ฝ้า รอยดำจากสิวหายไว แต่ผลข้างเคียงจากการใช้สาร ไฮโดรควินิน ในระยะเวลาที่นานไป รักษายาวกว่านั้นเลยค่ะ โดยผลที่เกิดจากการใช้สาร ไฮโดรควินิน เป็นเวลานานเกินไป จะทำให้
1.เกิดการระคายเคืองบนผิวหนัง
2.เกิดด่างขาว
3.ผิวหน้าดำ
4.เกิดฝ้า สีน้ำเงินถาวร
5.เกิดโรคผิวหนัง
6.เกิดตุ่มนูนสีดำบริเวณที่ทาครีมบ่อยๆ
แล้วทาครีมที่มีสารไฮโดรควินิน แต่ไม่ทากันแดด ฝ้าที่สาวๆเป็นอยู่ จะดำกว่าเดิมค่ะ เพราะสารตัวนี้ไวต่อแสงมากกก และหนักกว่านั้น เมื่อใช้ครีมทาฝ้าที่มีส่วนผสมของสาร ไฮโดรควินินนานเกิน 6 เดือน เสี่ยงเป้น มะเร็งผิวหนัง ด้วยค่ะ สารตัวนี้ มีทั้งข้อดี และข้อเสีย โดยทั่วไป ไม่อยากเสี่ยง ก็ไปหาหมอดีกว่านะคะ
มีวิธีที่เช็คได้หรือไม่ เมื่อซื้อครีมที่ไม่น่าไว้ใจ ?
เทคนิค จับ 3 สารของครีมเถื่อน
วิธีสังเกต ครีมใส่สาร ปรอท
ผลเสียถึงขนาดให้ระบบประสาทเสื่อมได้ ไม่ธรรมดามากกกก… มิน่า อย. ถึงได้สั่งห้ามใส่ในผลิตภัณฑ์ รู้แบบนี้แล้ว สาวๆ ก็ต้องระวังตัวกันด้วยนะคะแล้วถ้าอยากรู้ ว่าครีมตัวไหน มีสารปรอทไหม ลองใช้วิธีนี้สังเกตดูนะคะ
เริ่มกันที่ ทาครีมลงบนท้องแขน แล้วเอาพลาสเตอร์ปิดแผล ปิดทับครีมที่ต้องการทดสอบค่ะ จากนั้น เอาพลาสเตอร์ปิดแผล อีกชิ้นแปะลงบนผิว ในบริเวณใกล้เคียงกัน รอเวลา ให้ผ่านไป 5 ชั่วโมง ลอกเอาพลาสเตอร์ออกค่ะ
สังเกตดูว่า หากตรงบริเวณที่ทาครีม ขาวซีด ผิดปกติกว่าอีกอัน เป็นแน่นอนว่า ครีมที่สาวๆกำลังจะใช้ มีสารปรอทแน่นอนค่ะ
วิธีสังเกต ครีมใส่สาร สเตียรอยด์
เห็นผลข้างเคียงจากการใช้สเตียรอยด์เกินขนาดกันแล้วใช่ไหมคะ? อย่าเสี่ยงกันเลยเนอะ ไม่คุ้มเสียเลย ถ้าอยากรักษาสิวจริง แนะนำให้หาแพทย์ ที่เชี่ยวชาญนะคะ คุณหมอจะรู้ดีกว่าเราแน่ๆค่ะ ว่าจะต้องใช้ สเตียรอยด์แค่ไหน ให้หน้าเราสวยใส แล้วถ้าสาวๆ ที่เราจะต้องซื้อครีมรักษาสิวใช้เอง ก็ควรหลีกเลี่ยง สเตียรอยด์ ดีกว่าค่ะ แล้วถ้าอยากรู้ ว่าครีมที่เราซื้อมา มีสาร สเตียรอยด์ไหม ของแบบนี้ต้องพิสูจน์เนอะ มีวิธีพิสูจน์ง่ายๆ ก่อนใช้ครีม
เรามาพิสูจน์ให้สาวๆเก็บไว้เป็นความรู้ก่อนใช้ครีมกันค่ะ
- ให้สาวๆป้ายครีมลงบริเวณท้องแขน ที่เป็นเนื้ออ่อน แล้วแปะพลาสเตอร์ปิดแผลทับบริเวณที่ทาครีมลงไป จากนั้นก็ไปทำอะไรเพลินๆ สัก 6 ชั่วโมงนะคะ แล้วแกะออก ถ้าแกะมาปุ๊บ มันขาวซีดผิดปกติ แปลว่า สาวๆ โดนครีมสเตียรอยด์เข้าแล้วค่ะ
- สาวๆ สามารถหาซื้อชุดทดสอบสเตียรอยด์ ได้จากร้านเภสัชกรแถวบ้านนะคะ โดยชุดทดสอบสเตียรอยด์แบบชุด จะใช้ทดสอบกับยาแผนโบราณได้ค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก – กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
วิธีสังเกต ครีมใส่สาร ไฮโดรควิโนน
ความจริง คุณหมอ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถใช้สารตัวนี้รักษาฝ้านะคะ แต่อยู่ในปริมาณที่ อย. กำหนด
คือห้ามเกิน 2 % และคุณหมอ ก็จะรู้อยู่แล้วค่ะ ว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ในการรักษาฝ้าให้หาย แต่พวกเราสาวๆ ชอบใจร้อนไงค่ะ อยากหายๆเร็วๆ อยากหน้าใสเร็วๆ บอกเลยค่ะว่า ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามนะเออ…..
มาค่ะ.. มาดูวิธีสังเกตว่า ครีมที่เราซื้อมานั้น มีสารไฮโดรควินิน ไหม มีวิธีสังเกตดังนี้ค่ะ อ่านฉลากครีมที่ซื้อมาค่ะ โดยกฎหมายอนุญาตให้ใส่สาร ไฮโดรควินิน ได้ไม่เกิน 2 % แล้วถ้ายิ่งครีมตัวไหน เคลมแร๊ง!… ว่าหายได้ใน 7 วัน เซย์กู๊ดบ๊าย ได้เลยค่ะ อย่าไปเชื่อ หน้าพังไม่คุ้มกันนะคะ
น้ำละลายผงซักฟอกเข้มข้น ถ้าเกิดไม่แปะฉลากอีก มาพิสูจน์กันสวยๆ ด้วยวิธีนี้กันค่ะ สาวๆต้องละลายผมซักฟอกกับน้ำ เอาแบบเข้มข้นเลยนะคะ แล้วเอาคัตตั้นบัตปาดครีมขึ้นมาเบาๆ จากนั้นก็เอาครีมจุ่มลงไปน้ำละลายผงซักซอกเข้มข้นเลยค่ะ ทิ้งไว้สัก 1 – 2 นาที แล้วเอาขึ้นมาดู ถ้าครีมเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล หรือสีโกโก้ สวัสดีสารไฮโดรควิโนนเลยค่ะ คุณได้เจอกับสารควบคุมของ
อย.แล้วค่ะแต่สารไฮโดรควิโนน ไม่สามารถ ที่จะหยุดใช้ได้ปุ๊บปั๊บ ถ้าสาวๆ ใช้ไปแล้ว ให้ค่อยๆ หยุดใช้ เช่น เปลี่ยนเป็น 2 -3 วัน ทาสักครั้ง จะได้ไม่เกิดผลข้างเคียงมากค่ะ
ที่มา : apexprofoundbeauty.com